#Politics
Target:
UN, US congressman, US media and journalist
Region:
Thailand
Website:
www.antithaksin.com


เรากำลังทำ petition ครับผม วัตถุประสงค์เพื่อจะรวมพวกเราคนไทยทั้งอเมริกาให้ได้มากที่สุดและคนอเมริกันด้วย และนำจดหมายดังกล่าวไปยื่นให้องค์การสหประชาชาติ สื่อมวลชนอเมริกัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอเมริกา และ วุฒิสมาชิกอเมริกา เนื้อหาฉบับนี้เป็นจดหมายฉบับแรกและเน้นไปที่เรื่องของการละเมิดสิทธิมนุษยชนตลอดจนการเรียกร้องสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งรัฐบาลปัจจุบันของนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรได้ละเมิดมาโดยตลอด ที่เน้นในเรื่องดังกล่าวเพราะเป็นประเด็นที่อเมริกันชนจะเข้าใจได้ หากท่านได้รับฟัง CNN ท่านจะเห็นว่าข่าวสารเรื่องเหตุการณ์ในเมืองไทยถูกบิดเบือนไปมาก และจำเป็นที่เราจะต้องสะท้อนให้คนที่มีความสำคัญในสังคมอเมริกันได้เข้าใจ ภาษาอังกฤษกำลังแปล และจะนำมาลงไว้คู่กันอย่างเร่งด่วนครับผม อยากให้ช่วยกัน petition มากที่สุด ในที่นี้เราต้องการรายชื่อคนไทยในสหรัฐอเมริกาให้มากที่สุด โปรดเขียนชื่อใน petition เป็นภาษาอังกฤษเวลาลงนาม คลิกไปบน link ข้างล่างนี้นะครับผม ใส่ e-mail กับชื่อจริงครับผม เพราะเราจะส่งให้คนอเมริกันอ่านครับผม รบกวนเผยแพร่ในหมู่คนไทยให้มากที่สุดครับผม จดหมายที่เราจะยื่นมีเนื้อความดังนี้ครับผม ประชาชนอเมริกันเชื้อสายไทยและประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทยผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐอเมริกา ขอแสดงเจตนารมณ์อันหนักแน่นในการต่อต้านรัฐบาลไทยที่ขาดความชอบธรรมในการบริหารราชการแผ่นดิน ตลอดจนขอเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็นตามแนวทางประชาธิปไตยและขอประนามการกระทำของรัฐบาลไทยในการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยการใช้เล่ห์กลและความรุนแรงเข้าปราบปราม สลายการชุมนุมผู้ต่อต้านรัฐบาล นับตั้งแต่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้บริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด และมีการฉ้อราษฎร์บังหลวงและการทุจริตเชิงนโยบายแพร่กระจายไปทั่วทุกๆหน่วยราชการทำให้ประชาชน ชาวไทยเกิดความเดือดร้อน ไม่พึงพอใจและออกมาแสดงพลังต่อต้านอยู่บ่อยครั้งมาโดยตลอด รัฐบาลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ได้ดำเนินการตอบโต้อย่างแข็งกร้าว โดยการลิดรอนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและ จำกัดการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอันขัดกับหลักการประชาธิปไตย ตลอดจนใช้ความรุนแรง ซึ่งเป็นการละเมิด สิทธิมนุษยชนดังนี้ ในด้านการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร รัฐบาลได้ควบคุม แทรกแซงกิจการวิทยุโทรทัศน์ ให้นำเสนอข่าวสารข้อมูลที่สนับสนุนรัฐบาลเพียงด้านเดียว ข่าวสารข้อมูลที่ ต่อต้านรัฐบาลถูกปกปิด บิดเบือน ใส่่ร้าย ป้ายสี นอกจากนี้สถานีวิทยุโทรทัศน์ต่างๆ ก็เลือกที่จะเซ็นเซอร์ตัวเอง เพราะความเกรงกลัวอำนาจการบริหารงานของรัฐบาลที่สามารถให้คุณให้โทษในการให้สัมปทานหรือพิจารณาปลดรายการได้ การนำเสนอละครเพื่อสะท้อนปัญหาการทุจริตของนักการเมืองและของข้าราชการระดับสูง เช่นละครเรื่องเหนือเมฆ ถูกห้ามเผยแพร่ทางโทรทัศน์กลางคัน เช่นเดียวกันกับสารคดีคัดค้านการดำเนิน โครงการสร้างเขื่อนแม่วงก์ของรัฐบาลในรายการคนค้นคน ถูกสั่งระงับและห้ามเผยแพร่จนกระทั่งประชาชน ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างรุนแรงจึงตัดทอนให้เผยแพร่ได้เพียงบางส่วน นอกจากนี้รัฐบาลและกลุ่มทุน ในเครือข่ายของรัฐบาลได้เข้าไปซื้อกิจการหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ นอกจากนี้ยังมีการเอื้ออำนวย ผลประโยชน์ทางธุรกิจให้แก่หนังสือพิมพ์ เช่นการลงโฆษณาโครงการ หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ ทำให้หนังสือพิมพ์ต่างๆ ไม่กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นและเปิดเผยความชั่วร้ายของรัฐบาล ในส่วนของ สื่อสังคมออนไลน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้ออกมาข่มขู่ว่าจะ ดำเนินคดีกับผู้โพสต์ความเห็นต่อต้านรัฐบาลอยู่เป็นประจำ รัฐบาลยังมีส่วนรู้เห็นในการคุกคามสื่อโดยการฆ่า นายเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร สื่อสารมวลชนอิสระผู้ก่อตั้งเว็บไซท์ Thai insider เสนอข่าวต่อต้านรัฐบาลอย่าง รุนแรงมาโดยตลอดอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตและมีการตระเตรียมการ วางแผน และดำเนินการอย่างเป็น กระบวนการโดยตำรวจ นอกจากนี้การชุมนุมโดยสงบเพื่อต่อต้านรัฐบาล ถูกกลั่นแกล้งมาโดยตลอด เพื่อไม่ให้ ประชาชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น มีการส่งกลุ่มคนเข้าไปก่อกวนเพื่อให้เกิดความวุ่นวาย คุกคามความ ปลอดภัยและสวัสดิภาพของผู้เข้าร่วมชุมนุม เช่น การโยนหมามุ่ยซึ่งมีพิษทำให้เกิดอาการคันอย่างรุนแรง มีการซุกซ่อนและปล่อยงูเห่าซึ่งเป็นงูพิษร้ายแรง ใส่กลุ่มผู้ชุมนุม สำหรับการประท้วงโดยมวลมหาประชาชน ครั้งล่าสุดนี้ รัฐบาลได้ออกมาข่มขู่ กรรโชก สกัดกั้น กลั่นแกล้ง ประชาชนผู้ต้องการเดินทางเข้าร่วมชุมนุมโดย สงบสันติอหิงสา ปราศจากอาวุธและเครื่องมือใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความรุนแรง เช่น กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ออกประกาศจะดำเนินคดีแก่ผู้ที่เป่านกหวีดเพื่อต่อต้าน นักการเมืองฝ่ายรัฐบาลหรือข้าราชการระดับสูง ของรัฐบาลเป็นต้น ทั้งหมด ทั้งสิ้น เป็นเพียงบางส่วน ที่แสดงออกมาให้เห็นพฤติกรรมของรัฐบาลนางสาว ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งลิดรอนจำกัดสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร ซึ่งขัดกับหลักการขั้นพื้นฐานของระบอบประชาธิปไตยอย่างรุนแรง ในส่วนของการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปราบปราบผู้ต่อต้านรัฐบาลด้วยความรุนแรงนั้น รัฐบาลได้ใช้กองกำลังตำรวจในการดำเนินการกับปัญหาความไม่สงบในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยความรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากโดยปราศจาก ข้อเท็จจริงหรือข้อพิสูจน์ ทางกฎหมายใด ๆ ในความผิด ร้ายแรงที่ได้กระทำ ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2555 รัฐบาลได้สั่งการให้กองกำลังตำรวจใช้ความรุนแรงในการ ปราบปรามผู้เข้าร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลอย่างสงบ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้าในกรุงเทพมหานคร ด้วยการโยนระเบิด ยิงแก๊สน้ำตา และทุบตีประชาชน โดยประสงค์ต่อผลและย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น และมิได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการสลายการชุมนุม จากขั้นเบาไปหนักตามลำดับอย่างที่ควรจะเป็น โดยหลักสากล การฆ่านายเอกยุทธ์ อัญชัญบุตร สื่อมวลชนอิสระชื่อดังที่ต่อต้านรัฐบาลซึ่งดำเนินการเป็น กระบวนการโดยตำรวจดังที่กล่าวไปแล้วข้างต้นก็นับว่าเป็นการใช้ความรุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วย เช่นกัน จากที่กล่าวมาข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีสภาพเป็นรัฐตำรวจที่ข่มขู่คุกคามความปลอดภัย และชีวิตของพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 31 ตุลาคม 2556 เวลา 4.00 น. รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ผลักดันพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมผ่านสามวาระในการประชุมเพียงครั้งเดียว โดยอาศัยเสียง ข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งพระราชบัญญัติดังกล่าว ระบุให้ยกเว้นความรับผิดในทุกกรณี ทั้งการทุจริต คอรัปชั่นในส่วนของนักการเมืองและความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ของข้าราชการระดับสูง ความผิดเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม สาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าว ส่งผลให้คดีความที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมตกเป็นโมฆะ ผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ ใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งขัดต่อ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน และทำลายล้าง หลักนิติรัฐ นิติธรรม รวมไปถึงหลักศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม อันดีงามอย่างรุนแรง ทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นนำไปสู่การคัดค้าน ต่อต้านของมวลหมู่มหาประชาชนหลาย ล้านคนในและนอกราชอาณาจักรไทย ในช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่กระนั้นก็ตามรัฐบาลก็ยังคงดำเนินการ ละเมิดสิทธิมนุษยชน ตลอดจนลิดรอนสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และปิดกั้นเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของประชาชน รัฐบาลกลับเร่งเร้าสถานการณ์ให้รุนแรงให้เกิดขึ้นโดยการโยนระเบิดและยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้เข้า ร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลบริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ นอกจากนี้ยังมีการโปรยตะปูเรือใบบนทางหลวง แผ่นดินหมายเลข 4 ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้รถโดยสารนับร้อยคันที่ประชาชนชาวไทยจากทุก จังหวัดในภาคใต้ล้อระเบิดและเกิดอุบัติเหตุ ไม่สามารถเดินทางมาร่วมชุมนุมกับพี่น้องประชาชนในกรุงเทพได้ ซึ่งถือเป็นการพยายามฆ่าคนตายโดยเจตนาของรัฐบาล ตลอดทั้งรัฐบาลยังสั่งการให้ตำรวจ หน่วงเหนี่ยว ประวิงเวลา ตรวจค้น และห้ามพี่น้องประชาชนคนไทยจากต่างจังหวัดเข้ามาร่วมชุมนุมทางการเมืองใน กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2556 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของ มนุษย์ (นางปวีณา หงสกุล) ได้ระดมเหล่าเด็กกำพร้ามาไว้ยังที่ทำการกระทรวงเพื่อเป็นโล่มนุษย์ให้กับตนเอง จากมหาชนผู้ต่อต้านรัฐบาล การกระทำดังกล่าวขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและเป็นการกระทำต่อเด็กและ เยาวชนที่ไม่อาจจะให้อภัยได้อย่างเด็ดขาด ในวันที่ 23 พฤศจิกายน ศาลรัฐธรรมนูญได้ลงมติว่ารัฐบาลโดยรัฐสภาไม่ได้ใช้วิธีการอันถูกต้องในการ แก้ไขรัฐธรรมนูญทำให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญตกเป็นโมฆะ เนื่องจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝ่ายรัฐบาลได้ กระทำการทุจริตในการลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีการเสียบบัตรประจำตัวลงมติแทนกันอย่างผิดจริยธรรม และหลักนิติธรรมอย่างโจ่งแจ้ง นอกจากนี้การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยที่มาของสมาชิกวุฒิสภาดังกล่าวยังขัด กับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญเองโดยตรง แต่รัฐบาลกลับแถลงตอบโต้และดำเนินการฟ้องกลับศาล รัฐธรรมนูญอย่างรุนแรง โดยไม่ยอมรับผลการตัดสินดังกล่าวและไม่ยอมรับอำนาจศาล การกระทำดังกล่าว ข้างต้นย่อมขัดกับหลักศีลธรรมและหลักนิติรัฐ ตลอดจนหลักการประชาธิปไตย บัดนี้สถานการณ์ทางการเมืองได้บีบคั้นรัฐบาลเป็นอย่างยิ่ง และรัฐบาลได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวในการ ปราบปรามประชาชนผู้เข้าร่วมชุมนุมนับล้านคนอย่างสงบสันติ ด้วยความรุนแรงมาโดยตลอด ทำให้พวกเรา ประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทยผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐอเมริกาและประชาชนอเมริกันผู้มีเชื้อสายไทยเกิด ความกังวลและห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อน ตลอดจนพี่น้องประชาชน ชาวไทยร่วมชาติร่วมสายโลหิตเป็นอย่างยิ่ง พวกเราขอเรียกร้องความใส่ใจและการสนับสนุนอย่างแข็งขันจากองค์การสหประชาชาติ เลขาธิการ ประธานสมัชชาใหญ่ สภามนตรีความมั่นคง และองค์การที่เกี่ยวข้องด้านสิทธิมนุษยชน การต่อต้าน การคอร์รัปชั่น และการก่ออาชญากรรมทำร้ายมวลมนุษยชาติ ให้ได้ตระหนักและประนามการก่ออาชญากรรม ของรัฐบาล นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างรุนแรง เราประชาชนชาวไทยขอเรียกร้ององค์การสหประชาชาติด้วยความเคารพยิ่งในการช่วยเหลือและหยุด ยั้งการใช้กำลังรุนแรงทุกรูปแบบโดยตำรวจ และกองกำลังที่ไม่แสดงสังกัดซึ่งสนับสนุน โดยพรรคเพื่อไทยของ รัฐบาลซึ่งขัดขวาง ต่อต้าน และทำร้ายการต่อสู้อย่างอหิงสาโดยไร้อาวุธของประชาชนชาวไทยในกรุงเทพ มหานครและทั่วราชอาณาจักรในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อทางการเมืองดังกล่าวอันเกิดจากการที่ประชาชนมีจิตสำนึก ในการโค่นล้มระบอบการปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นธรรมซึ่งย่อมเป็นภารกิจที่ถูกต้องและศักดิ์ สิทธิ์ของคนไทยที่มีต่อราชอาณาจักรอันเป็นที่รักยิ่งของคนไทยทุกคน ประชาชนอเมริกันเชื้อสายไทยและประชาชนแห่งราชอาณาจักรไทยผู้มีถิ่นพำนักถาวรในสหรัฐอเมริกา 29 พฤศจิกายน 2556

We want to urge support for freedom of speech and a quest to stop the violation of human rights by the Thai government.

December 2, 2013

To the Secretary-General of the United Nations,
To the President of the General Assembly,
To the Security Council and the related agencies in charge of human rights, anti-corruption and crimes against humanity of the United Nations,
To Mr. President of the United States of America,
To the United States Senators,
To the Members of the United States House of representatives,

We, United States Citizens of Thai heritage and Thai Citizens who are United States Permanent Residents, as well as United States Citizens of all walks, declare our intent to monitor, peacefully protest and stand firmly against the current illegitimate government of Thailand led by Prime Minister Yingluck Shinawatra.

We call for the upholding of the basic rights of peaceful assembly and freedom of expression under the universal principles of democracy. And further, we condemn the actions of the Yingluck Shinawatra government – which has systematically violated human rights by using political dirty tricks of deception, lies and violence in its attempts to disperse legitimate anti-government protesters.

Since Yingluck Shinawatra became Prime Minister of Thailand in August 2011, there have been numerous incidents of faulty management, outrageous mistakes, obvious corruption, and corruption-inducing policies that have spread systematically through all Thai government agencies. Most Thai people and diligent observers of Thai politics see her as the puppet of her criminal older brother – the deposed former prime minister of Thailand, Taksin Shinawatra. Since 2011, the crime wave led by Yingluck Shinawatra has heightened Thai political discontent, increased suffering and forced the Thai people to peacefully demonstrate to restore their honest and ethical government. Sadly, the Yingluck government has responded harshly by infringing upon basic freedom of expression and by limiting access to the media and information, which is contrary to the universal principles of democracy. Importantly, the immoral and delinquent Yingluck Shinawatra government has also used violence in violation of universal human rights in the following ways:

The Yingluck government has enforced brutal and illegal restrictions on freedom of expression and access to media and information for the Thai people. The government has controlled and infiltrated the businesses of radio and television to create one-sided presentations of news and information that only support the corrupt status quo of the current government. Media outlets which provide information and news on government scams have been concealed, twisted, and manipulated for the nefarious purposes of trying to crush any legitimate dissent. Further, many radio and television stations have chosen to censor themselves out of fear of the government’s power to benefit or penalize in the awarding of ongoing contracts and censoring and the retribution of banning their programs from airing. One popular TV show that depicts the current corruption practices of politicians and high-level civil servants – the serial Thai TV drama “Neur Mek,” was abruptly cancelled in the middle of the series. Similarly, the “Khon Khon Khon” program’s documentary film against the government’s Mae Wong Dam project was ordered to stop and forbidden from releasing this important and truthful documentary. When a large group of citizens strongly demonstrated their opposition of the government’s oppressive tactics, the government censored the film and allowed only partial release. Furthering the manipulation of ethical and honest media programming, the government and its financial networks have invested heavily in newspaper and print media businesses. The government has also granted business favors to newspapers that advertise the benefits of governmental and quasi-governmental projects – making legitimate newspapers afraid to express opinions or reveal the government’s deceptions, machinations and wrongdoing.

The Yingluck government has systematically oppressed legitimate online social news networks. The Yingluck government’s Minister of Technology and Communications has threatened frequently to take to court those who make anti-government posts online. In June 2013, this ongoing atmosphere of threats and intimidations greatly intensified with the abduction, torture and murder of Mr. Ekkayut Anchanbutr, a freelance journalist and founder of the website “Thai Insider” which had consistently presented strong anti-government reporting. Instead of a legitimate murder investigation, the government’s lack of transparency in the investigation of Mr. Anchanbutr’s political assassination was improbably determined to be a petty theft murder. This improbable handling of this obvious assassination was seen as highly suspicious and created great fear and intimidation for members of Thai online media. It is also considered the use of force and violation of human rights.

The Yingluck government has systematically harassed peaceful non-violent protesters. The Yingluck government has continually harassed peaceful anti-government demonstrations in order to prevent Thai people from expressing their opinions. The Yingluck government has sent in partisan groups in to create trouble and threaten the safety and welfare of the demonstrators. Some of these “independent” thugs have thrown itchy and poisonous “ma mui” plants at protestors and released poisonous snake into crowds of demonstrators. In the most recent round of demonstrations, the government has threatened and stopped people who were trying to travel to join the peaceful and non-violent demonstrations. For example, the Department of Special Investigations announced it would take to court truth and freedom loving citizens who try to blow the whistle in protest against government-biased politicians and high-sitting corrupt government bureaucrats. These evil tactics are only a part of the dirty tricks which Yingluck Shinawatra and her corrupt cronies have used to suppress the universal rights of freedom of expression and open media access – all of these criminal tactics greatly violate the basic principles of democracy in Thailand and worldwide.

The Yingluck government has systematically used force against peaceful protesters. In violation of human rights, the government has continue to used force in putting down anti-government protests. The Yingluck government has systematically used the police to violently crackdown on the problems of political unrest in three Southern provinces. These gestapo-like tactics have resulted in a great number of deaths without any legitimate fact-finding and legal proof of serious wrongdoing by the people accused.

In one well-known case, on November 22, 2011, the government ordered the police to use force to violently clash with peaceful anti-government demonstrators at the esplanade near the King Rama V memorial statue by willfully throwing, tear gas bombs, and assaulting the nonviolent protestors (Most of them are Buddhist monks and vegetarian). These violent police tactics encouraged by the Yingluck government which did not follow safer conventional crowd dispersal practices of gradually increasing the level of force as it should have done. These declarations are supported by thousands of witnesses who see that Thailand has become a police state that threatens and undermines the safety and life of Thai citizens in huge violations of basic human rights.

More dirty politics have recently surfaced. Shockingly, during a closed door 4:00 a.m. meeting on Thursday, October 31, 2013, the Yingluck government pushed through an amnesty bill in one meeting in the House of Representatives (violating due process and legitimate debate – which ordinarily requires three open chamber meetings). This amnesty bill voted to absolve all past political wrongdoing – including persons convicted of corruption such as politicians and high-level civil servants and wrongdoing involving the justice system. This scam essentially absolves all perpetrators currently involved with cases in the justice system and eliminates all possible future penalties. Using these illegal actions, the Yingluck government and its cronies have violated basic universal human rights and have destroyed the fundamental rules of law, morality, and virtue.

As a consequence of these dirty political actions, several million people in and outside of Thailand have protested in November 2013. Unfortunately, the Yingluck government continues to violate universal human rights, infringes upon the Thai people’s freedom of expression and thwarts the Thai people’s access to news and information.

In more government violence, the thugs of the Yingluck government further exacerbated the situation by throwing bombs of tear gas into a crowd of peaceful non-violent protesters in the Makkawanrangsan Bridge area.

In addition, bent nails were thrown on Highway No. 4 in Prajuabkirikhan Province in an attempt to burst the tires of nearly a hundred buses containing Thai protesters from every province in the South. These dirty tactics were used to prevent protestors on the bus from successfully joining anti-government protesters in Bangkok. Such an attempt could have resulted in a large number of deaths by innocent people who were only trying to exercise their right to protest peacefully against the government. The government also ordered the police to detain, delay, search, and forbid Thai citizens from the provinces from joining the political protest in Bangkok.

Using human shields. On November 28, 2013, the Minister of Social development and Human Welfare, Paveena Hongsakul, ordered to to bring over around one hundred girl orphans from Rajavithi Home for Girls at the Minister just right before an arrival of protestor who want to occupy her office. Some insiders immediately called Wallop Tangkananuraksa, famous Non-government organization officer on child and child abuse, to invade and rescue those orphans. However, this big groups of orphan has already been a human shield whether Paveena Hongsakul purposively plan to do so or not, since protestors had arrived the Ministers . Such behavior is a violation of human rights and an inexcusable treatment of children and youths.

The Yingluck government has refused to accept the decision of Constitutional Court. On November 23, 2013, the Thai Constitution Court ruled as unconstitutional the Thai government’s attempt to amend the Constitution. The Court found that Parliament’s failure to use proper procedures, such as (i) secretly altering the content of the bill being approved , and (ii) the ruling Pheu Thai Party MPs’ voting for the draft amendment by using electronic ID cards of absent members that is clearly violated both moral and legal principles. The Court also found the amendment substantively in contravention of the intention of the Constitution.

The Thai government responded by vehemently rejecting this ruling and filing suit against the majority of justices who ruled against the government. The government announced that it refused to accept the court’s decision or to subject itself to the power of the court. The government’s claim that the Constitution Court has no right to intrude into the power of parliament to act as its majority wishes is an unprecedented attempt to violate rules of law and fundamental principles of checks and balances of power in a democracy. The government repeatedly violates morality, rules of law, and principles of democracy, and thus declares itself above the law.

Government’s use of violence against peaceful protesters resulted in deaths and injuries:

On December 1, 2013, in the Chamai Maruchet Bridge area (in front of the government house), the police threw tear gases and unknown purple chemical water (which causes severe skin irritation) at unarmed crowds of anti-governmental protesters. This went on for several hours.

On December 2, 2013, the police used real bullets and shot an army medical assistant in the leg while he was trying to provide first aid to protesters hurt by tear gas.

As of December 2, the total number of deaths and injuries are reported to be at least 4 deaths and 58 critically injured.

Failure of police to respond to pleas to protect trapped student protesters; [possible] police involvement in shooting violence killed protesters.

On November 30, 2013, student protesters at Ramkhamhaeng University were attacked by pro-government redshirt protesters while the police declined to help. Video clips taken by a witness at the university showed police involvement. In one clip taken by a witness at the university, instructions to “change from red shirt to black shirt” could be heard, followed by sounds of bullets. Channel 7 reported photos of at least two men in black shooting. Students were trapped inside by both the police and redshirts and subject to shooting and bomb attacks.

At least one student has since died from his injuries. The students were denied access to medical care, food, and water. The President of the university, Wutthisak Larpchareonsab, said he saw two students shot in the head, and his pleas to the police for protection fell on deaf ears. For the entire night and throughout the next day, there was no help for the students trapped inside. Finally the students had to be rescued by the Governor of Bangkok and a group of soldiers.

Currently severely pressured politically, the government has taken a tough stance in dealing with the nearly a million demonstrators who have protested without violence. This has led us, Thai citizens with permanent residence in the US and American citizens of Thai heritage, to feel the gravest concern for the welfare and safety of our fellow Thai relatives, siblings, friends and countrymen.

We call for your attention, strong support, and strongly condemn the crimes of the government of Yingluck Shinawatra.

We the Thai people respectfully call for help in stopping every type of use of force by police and unidentified forces supported by the government’s Pheu Thai Party, which currently obstructs, opposes, and attacks the peaceful, weaponless movement of the Thai people in Bangkok and throughout the country during such political crisis. The impetus of such movement is the people’s desire to bring down an unlawful and unjust governing system, which is the rightful and sacred duty of Thais to their beloved nation.

United States Citizens of Thai heritage and Thai Citizens who are United States Permanent Residents.

November 29, 2013

GoPetition respects your privacy.

The Support human rights and the quest for freedom of speech in Thailand petition to UN, US congressman, US media and journalist was written by Arnond Sakworawich and is in the category Politics at GoPetition.